ต้อนรับสู่บทความ
มะรุม แคปซูล Thai Herb สรรพคุณ บำรุงร่างกาย รักษาโรค
ปรับปรุง ม.ค.2564
มะรุม เป็นผัก สมุนไพรพื้นบ้านของเรา มีคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร, ยา และด้านอุตสาหกรรม โดยธรรมชาติแล้วมะรุมเป็นไม้ยืนต้นที่เติบโตได้เร็ว ทนความแห้งแล้ง สามารถปลูกได้ในเขตร้อน เนื่องด้วยการเจริญเติบโตจะดีในแถบเอเชียซึ่งมีอาการร้อน การเติบโตอาจสูงได้ถึง 4 m. และสามารถออกดอกในระยะเวลาปีแรกหลังจากที่ปลูก
มะรุมในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Moringa และมะรุม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Moringa oleifera Lam มะรุมจะมีการเรียกต่างกันตามแต่ภูมิภาค เช่น ชาวอีสานเรียกกันอยู่สองอย่างคือ “ผักอีฮุม” และ “บักฮุ้ม” ชาวเหนือเรียกกันว่า “บะค้อนก้อม”
มะรุมมีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียบางประเทศ เช่น ศรีลังกา และอินเดีย ยิ่งไปกว่านี้ยังมีในทวีปแอฟริกา สามารถปลูกได้ง่าย งอกงามดี ได้ในดินทุกๆประเภท มีความต้องการน้ำ ความชื้นปานกลาง เราสามารถขยายพันธุ์มะรุมด้วยวิธีเพาะการเมล็ด และวิธีการปักชำ เวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังการปลูก ต้นมะรุมจะมีความสูงประมาณ 10-20 cm.
ในตำรา ยาพื้นบ้านใช้ใบมะรุมพอกแผลช่วยห้ามเลือด ทำให้นอนหลับ เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ พร้อมทั้งช่วยแก้ไข้ ใช้ส่วนดอกและผลเป็นยาบำรุง ขับ ปัสสาวะ พร้อมทั้งแก้ไข้ ใช้ส่วนเมล็ดบดพอกแก้ปวดตามข้อ และแก้ไข้
การกินใบสดและใบแห้ง อย่างไหนจะให้ผลประโยชน์กว่ากัน
การกินใบสดดี แต่ไม่สามารถกินได้มาก เพราะใบสดจะขับสารพิษมากกว่า เช่น อาการท้องเสีย เป็นอาการที่เกิดจากการกินพืชและผลไม้สดทุกชนิด ส่วน ใบแห้งกินได้ในปริมาณมากกว่าถึง 10 เท่า ให้สรีระรับสารอาหารได้ใน จำนวนที่พอเพียง นักค้นคว้าและวิจัยจากหลายสถาบันเห็นพ้องต้องกันว่า ใบ มะรุมแคปซูลที่ผ่านกรรมวิธีการเก็บรักษาอย่างถูกต้องและถูกสุขลักษณะ สารอาหาร จะเสื่อมน้อยที่สุดและปลอดภัยมากที่สุด
มะรุม ในทางการแพทย์จะช่วยใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน ควบคุมภาวะความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกายและจิตใจ
-ใบ ใช้ถอนพิษไข้ แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้อักเสบ แก้แผล ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ ดูแลรักษามะเร็ง ลดความดันโลหิต
-ยอดอ่อน ใช้ถอนพิษไข้
-ดอก ใช้แก้ไข้หัวลม เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ขับน้ำตา ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันมะเร็ง
-ฝัก แก้ไข้ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต
-เมล็ด เมล็ดปรุงเป็นยาแก้ไข้ แก้บวม แก้ปวดตามข้อ ป้องกันมะเร็ง นำเมล็ดมะรุมมาสกัดน้ำมันสามารถใช้ทำกับข้าว รักษาโรคปวดตามข้อ โรคเก๊าท์ รักษาโรครูมาติซั่ม พร้อมด้วยรักษาโรคผิวหนัง แก้ผิวแห้ง ใช้แทนยารักษาผิวให้ชุ่มชื้น รักษาโรคอันเกิดจากเชื้อรา
-เนื้อในเมล็ดมะรุม ใช้แก้ไอได้ดี บริโภคเนื้อในเมล็ด เป็นเสมอๆสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้
-ราก รสเผ็ด หวาน ขม คุณสมบัติ แก้อาการบวม บำรุงไฟธาตุ รักษาโรคหัวใจ รักษาโรคไขข้อ (rheumatism)
-เปลือกลำต้น รสร้อน คุณสมบัติขับลมในลำไส้ ทำให้ผายหรือเรอ คุมธาตุอ่อน ๆ แก้ลมอัมพาต ป้องกันมะเร็ง คุมกำเนิด เคี้ยวกินช่วยย่อยโภชนา
-ยาง (gum) ฆ่าเชื้อไทฟอยด์ ซิฟิลิส (syphilis) แก้ปวดฟัน earache, asthma
นอกจากนี้กากของเมล็ดกากที่เหลือจากการทำน้ำมัน สามารถนำมาใช้ในการกรอง หรือทำน้ำให้บริสุทธิ์เป็นน้ำดื่มได้ กากของเมล็ดมีคุณค่าเป็นยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอย่างยิ่ง และยังสามารถนำมาทำปุ๋ยต่อได้อีกด้วย
สำหรับคุณภาพของมะรุม สมุนไพรรักษา เราจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ คุณค่าทางโภชนาการ และคุณภาพทางอาหารการกิน ซึ่งสาเหตุที่ต้องแบ่งออกเป็นสองประเภทเนื่องจาก การแบ่งประเภททางอาหารเราจะนำคุณค่าทางอาหารของมะรุมมาเทียบกับคุณประโยชน์ทางอาหารของนมกับผักผลไม้ชนิดอื่นที่ได้รับการเห็นชอบว่าเป็นอาหารเพื่ออนามัย
ประโยชน์ทางอาหาร
วิตามินเอ(Vitamin A)ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตามากกว่าแครอตถึง 4 เท่า
วิตามินซี(Vitamin C)ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันโรคหวัด มากกว่าส้มถึง 7 เท่า
แคลเซียม(Calcium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟัน มากกว่านมสด 4 เท่า
โพแทสเซียม(Potassium)ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงสมองและระบบประสาทมากกว่ากล้วยถึง 3 เท่า
โปรตีน(Protein) ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มากกว่าโยเกิร์ต 2 เท่า
นอกจากนี้น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุมมีองค์ประกอบคล้ายน้ำมันมะกอกดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง
ประโยชน์ทางด้านอื่นๆนั้นก็มีอีกมากมาย ดังนี้
-ใช้ดูแลรักษาโรคขาดอาหารในเด็กแรกเกิดถึง 10 ขวบ และลดสถิติการเสียชีวิต พิการ และตาบอดได้เป็นอย่างดี
-ใช้รักษาผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานให้อยู่ในภาวะควบคุมได้
-รักษาโรคความดันโลหิตสูง
-ช่วยเพิ่มและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่กาย ทานผลิตผลจากมะรุมในระหว่างตั้งครรภ์ เด็กที่เกิดมาจะไม่ติดเชื้อ HIV นอกจากนี้ถ้ารับประทานอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 ครั้งยังช่วยให้คนทั่วๆไปสามารถสร้างภูมิต้านทานให้กับตัวเอง
ช่วยรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะ ควบคุมได้
ถ้ารับประทานสม่ำเสมอจะช่วยระแวดระวังไม่ให้เป็นโรคมะเร็ง แต่ถ้าหากเป็นก็จะช่วยให้การป้องกันพยาบาลง่ายขึ้น ในบางกรณีสามารถหยุดการเจริญเติบโตของโรคร้ายได้ ถ้าใช้ควบคู่ไปกับยาแพทย์แผนปัจจุบัน
หากผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งได้รับการเยียวยารักษาด้วยรังสี การดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้การแพ้รังสีฟื้นตัวเร็วขึ้นและมีตัวที่แข็งแรง
ช่วยรักษาโรคไขข้ออักเสบ โรคเกาต์ โรคกระดูกอักเสบ โรคมะเร็งในกระดูก โรครูมาติซั่ม
รักษาโรคตาเกือบทุกชนิด เช่น โรคตามืดตามัวเพราะขาดสารอาหารที่จำเป็น โรคตาต้อ เป็นต้น หากรับประทานสม่ำเสมอ จะทำให้ตามีสุขภาพที่สมบูรณ์
รักษาโรคลำไส้อักเสบ โรคเกี่ยวกับท้อง ท้องเสีย ท้องผูก โรคพยาธิในลำไส้
รักษาปอดให้แข็งแรง รักษาโรคทางเดินของลมหายใจ พร้อมกับโรคปอดอักเสบเป็นยาปฏิชีวนะ
สมุนไพร มะรุม กับความจริงอีกอย่างหนึ่งก็คือ มะรุมไม่ได้ปลอดภัยไปเสียทีเดียว เนื่องจากในตัวของมะรุมเองนั้นก็มีพิษเหมือนกัน เนื่องจากมะรุมเป็นพืชในเขตร้อน สำหรับหญิงตั้งครรภ์หาก ทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจจะทำให้แท้งบุตรได้ พร้อมทั้งยังรวมไปถึงผู้ป่วยโรคเลือดก็ไม่ควรรับประทานมะรุมเช่นกัน เพราะจะทำให้เม็ดเลือดแตกง่าย ยิ่งไปกว่านี้ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ก็ไม่ควรรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ด้วยเหตุว่ามะรุมมีโปรตีนที่ค่อนข้างสูงมาก แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ความว่ามันจะไม่ปลอดภัย เพราะคนไทยนิยมนำมาเตรียมอาหารมานานมากแล้ว ซึ่งสำหรับผู้ที่คิดจะดูแลสุขภาพด้วยการหันไปซื้อมะรุมสกัดแคปซูลมาทานนั้น ก็ควรจะต้องระมัดระวังและควรเลือกซื้อมะรุมแคปซูลที่มี อย. ด้วย มะรุมแคปซูลซื้อได้ที่ไหน
มะรุม ในส่วนของใบมะรุมควรบริโภคใบสด ๆ ที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป และไม่ควรถูกความร้อนนานเกินไป เพื่อให้ได้ประโยชน์ของสารอาหารอย่างเต็มที่ ซึ่งการใช้ใบมาประกอบอาหารสิ่งที่ต้องระวังก็คือ ไม่ควรให้เด็กทารกในวัยเจริญเติบโตถึง 2 ขวบรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป เพราะใบมะรุมมีธาตุเหล็กสูง หรือเด็กที่อายุ 3-4 ขวบควรรับประทานแต่เพียงเล็กน้อย พร้อมกับไม่ว่าจะวัยไหนก็ตามไม่ควรรับประทานในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ (ไม่ได้เกิดกับทุกคน) ควรเลือกรับประทานอาหารให้หลายหลาก
สารบัญสินค้า ล่าสุด ม.ค.2564
ผงบุก ส้มแขก ไซเลียม |
|